top of page
Search

ทำไมต้องใส่ใจเรื่อง Conductivity ในระบบน้ำหล่อเย็น?


Conductivity หรือค่าการนำไฟฟ้าในน้ำ เป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจคุณภาพน้ำในระบบ Cooling Tower ได้อย่างลึกซึ้ง หากไม่ควบคุมค่า Conductivity ให้เหมาะสม ระบบอาจเกิดปัญหาตะกรัน การกัดกร่อน หรือประสิทธิภาพลดลง ส่งผลต่ออายุการใช้งานของอุปกรณ์


ความสำคัญของค่า Conductivity

ค่า Conductivity บอกอะไรเราได้บ้าง?

  • เป็นตัวชี้วัดปริมาณสารละลายในน้ำ ยิ่งค่าสูง แสดงว่าสารละลายและไอออนในน้ำมีปริมาณมาก

  • ค่าสูงเกินไปอาจนำไปสู่การสะสมของคราบตะกรัน (Scale) และการกัดกร่อน (Corrosion)

การควบคุม Conductivity จึงสำคัญต่อการรักษาสมดุลของระบบน้ำหล่อเย็น ช่วยลดปัญหาในระยะยาว และเพิ่มประสิทธิภาพของ Cooling Tower


ทำไมต้องควบคุมค่า Conductivity?

ประโยชน์ของการควบคุม Conductivity อย่างเหมาะสม:

  1. ป้องกันการเกิดตะกรัน: ลดการสะสมของแร่ธาตุ เช่น แคลเซียมและแมกนีเซียม

  2. ลดการอุดตันในท่อ: ช่วยให้น้ำไหลเวียนได้ดีขึ้น

  3. เพิ่มประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนความร้อน: ลดการสะสมของคราบที่ขัดขวางการถ่ายเทความร้อน

  4. ประหยัดค่าซ่อมบำรุง: ลดการซ่อมแซมที่เกิดจากความเสียหายของระบบ

  5. ยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์: ลดความเสี่ยงของการกัดกร่อน

  6. ประหยัดต้นทุนระยะยาว: ช่วยลดการใช้สารเคมีและพลังงาน



ค่าควบคุม Conductivity ที่แนะนำสำหรับระบบ Cooling Tower

  • ค่าที่แนะนำ: 1,000 - 2,500 µS/cm (ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำ Make-up Water)

  • เหตุผล: หาก Conductivity สูงเกินไป แร่ธาตุในน้ำจะตกตะกอนและสะสมเป็นคราบตะกรันในท่อและอุปกรณ์



วิธีควบคุม Conductivity ในระบบน้ำหล่อเย็น:

  1. ใช้ระบบ Auto Blowdown: ช่วยปล่อยน้ำที่มีค่าความเข้มข้นสูงออกจากระบบ

  2. ปรับปริมาณ Make-up Water: เติมน้ำใหม่เพื่อรักษาสมดุล


การตรวจวัด Conductivity ด้วยเครื่องมือวัด (Conductivity Meter)

Conductivity Meter คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยตรวจวัดค่าความนำไฟฟ้าในน้ำได้อย่างแม่นยำ หลักการทำงานคือ ใช้หัววัด (Probe) จุ่มลงในน้ำ โดยค่าที่แสดงมักเป็นหน่วย:

  • µS/cm (ไมโครซีเมนต์ต่อเซนติเมตร)

  • mS/cm (มิลลิซีเมนต์ต่อเซนติเมตร)


เคล็ดลับการใช้งาน Conductivity Meter:

  • เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม: ให้เหมาะกับช่วงค่าที่ต้องการวัด

  • สอบเทียบเป็นประจำ: ใช้น้ำยามาตรฐาน เช่น 1413 µS/cm หรือ 12.88 mS/cm

  • บันทึกผลอย่างสม่ำเสมอ: เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและคาดการณ์ปัญหาล่วงหน้า


การปรับค่า Conductivity อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. การตรวจวัดและบันทึกข้อมูล:

    • ใช้ Conductivity Meter ตรวจวัดในจุดสำคัญของระบบ

    • บันทึกผลการวัดเพื่อตรวจสอบความสม่ำเสมอ

  2. การใช้เคมีและอุปกรณ์ควบคุม:

    • Scale Inhibitor: ลดการสะสมของแร่ธาตุ

    • Auto Blowdown System: ควบคุมการปล่อยน้ำอัตโนมัติ

    • IoT Monitoring: ตรวจสอบค่าพารามิเตอร์แบบเรียลไทม์

  3. การสอบเทียบ Conductivity Meter:

    • ตรวจสอบความแม่นยำทุก 6 เดือน

    • ใช้สารละลายมาตรฐาน (Conductivity Standard Solution)


การดูแลรักษา Conductivity Meter

เพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำและยืดอายุการใช้งานเครื่องมือ ควรปฏิบัติดังนี้:

  • ทำความสะอาดหัววัดหลังใช้งาน

  • เก็บรักษาในที่ปลอดภัย

  • ตรวจสอบและสอบเทียบอย่างสม่ำเสมอ



บทสรุป: การควบคุม Conductivity ในระบบน้ำหล่อเย็นคือการลงทุนระยะยาว

การควบคุมค่า Conductivity ที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยลดปัญหาตะกรันและการกัดกร่อน แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ Cooling Tower ลดค่าใช้จ่าย และรักษาสมดุลของระบบในระยะยาว



ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลระบบน้ำหล่อเย็น? ติดต่อเราเพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน Conductivity Meter ได้ทันที!
Add Line @cptwater

 
 
 

Comments


bottom of page